เรื่องของ สี จะมีอะไรให้สงสัยได้
เรารู้จัก สี กันดีอยู่แล้วทั้งสีขาว ดำ แดง น้ำเงิน ฟ้า มีสีมากมายที่เรารู้จัก
นับเป็นสัญลักษณ์ที่เรียบง่าย โดดเด่น และจำแนกได้ง่ายสำหรับผู้คนทั่วไป
แต่ผู้ตาบอดสี จะเห็นโลกที่แตกต่างไปจากเรา (ขอกล่าวเฉพาะผู้ตาบอดสีแล้วกัน)
เนื่องด้วย พวกเขามีเซลล์รับแสงบกพร่องหรือไม่สมดุล เมื่อเทียบกับคนทั่วไป
จึงเห็นสีสันของภาพต่างๆ ในอีกมุมมองหนึ่ง
เซลล์สีในตาคนเราทั่วไปจะมีเซลล์กรวย อยู่ 3 ชนิด
คือ ชนิดรับสีแดง ชนิดรับสีน้ำเงิน และชนิดรับสีเขียว
น่าสงสัยมาก เพราะ วิชาศิลปะสอนว่าแม่สี 3 สีคือ แดงน้ำเงินและเหลือง
และสีเขียวเกิดจาก แม่สีเหลืองผสมกับแม่สีน้ำเงิน
และสีเขียวเกิดจาก แม่สีเหลืองผสมกับแม่สีน้ำเงิน
ซึ่งแม่สีผสมภาพเหล่านี้ กลับไม่ตรงกันกับแม่สีในตาของเรา
เครื่องพิมพ์ใช้หลัก RGB หรือก็คือใช้หลักแม่สีเหมือนแม่สีตาของคน
เครื่องพิมพ์ใช้หลัก RGB หรือก็คือใช้หลักแม่สีเหมือนแม่สีตาของคน
แต่แน่นอน คนเราเห็นสีมากกว่า 3 สีที่ว่ามานั้น แต่สีที่เรามองเห็นนั้นเกิดจากแม่สีของตาคนรับสีมามากกว่า 1สี
จึงมองเห็นวัตถุมีสีอื่นๆนั้นเอง -- 10ล้านสี คือผลสรุปจำนวนสีที่ค้นพบว่าคนเราสามารถมองเห็นได้
ด้วยธรรมชาติที่หลาาากหลาย และการสำรวจที่ก้าวหน้า เราจึงรู้ด้วยด้วยว่าสัตว์เห็นโลกด้วยสีอะไรบ้าง เช่น
หมึก สัตว์ทะเลที่เรากินมันอยู่บ่อยๆ ถ้าเรามีโอกาศมองเห็นโลกจากตาของมันแล้วล่ะก็ เราจะต้องตกตะลึง
เพราะ หมึกเห็นแต่สีขาวดำเท่านั้น ลองคิดถึงสภาพของมันคง ล่องลอยในทะเลกว้างสีขาว
เมื่อมีผู้บุกรุกหรือรู้สึกถึงอันตราย มันจะฉีดหมึกสีดำสนิทใส่ *-* บริเวณนั้นจะเห็นเป็นแอ่งสีเทาๆ
เพราะ หมึกเห็นแต่สีขาวดำเท่านั้น ลองคิดถึงสภาพของมันคง ล่องลอยในทะเลกว้างสีขาว
เมื่อมีผู้บุกรุกหรือรู้สึกถึงอันตราย มันจะฉีดหมึกสีดำสนิทใส่ *-* บริเวณนั้นจะเห็นเป็นแอ่งสีเทาๆ
แต่เว้นเรื่องหมึกกันก่อน สัตว์เลี้ยงประจำบ้านนอย่างแมวก็น่าสนใจ ด้วยเหล่าแมวที่จับหนูเปื้อนเลือดแดงสดมาอวดเจ้าของ
ในสายตามันขาดการเห็นแม่สีหลัก 1 สีที่ไม่เหมือนคน คือสีแดง งั้นเจ้าแมวก็เห็นหนูตัวออกสีน้ำเงินๆ และเลือดหนูสีเขียวๆ
ด้วยความสามารถที่แยกสีและเห็นสีที่ไม่เท่ากัน จะเห็นโลกต่างจากกันไปคนละมุม
ถ้าอย่างงั้นแล้ว คนที่มีเซลล์สีมาก จะเห็นความแตกต่างของภาพได้ดี เหมือนคนชิมรสไวน์ที่แยกรสได้ละเอียดไหม
ถ้าใช่ ศิลปินจิตรกร ก็ต้องมีเซลล์สีผิดไปจากชาวบ้านมากๆเลยสิ บางทีสิ่งนี้อาจอธิบายได้
ส่วนสัตว์หลายชนิดอย่างลิง นก ต่างๆนั้นมีความสามารถเห็นสีได้สดใสเทียบเคียงกับมนุษย์
ดูเหมือนว่าประโยชน์เรื่องสี ช่วยให้เราพบความไม่สมดุลของเซลล์สีได้ เช่น ภาพทดสอบการตาบอดสี
แต่ดูเหมือนการตาบอดสี ก็อาจจำเป็นในลดโอกาศในอาชีพได้เช่นกัน งานด้านแฟชั่น ศิลปกรรม
อุตสาหกรรม หรืองานที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจเช่น ผู้ควบคุมจราจรลานบิน/ถนน
ได้เพิ่มลงในการรับสมัครงาน หรือแม้แต่สถานศึกษาวิชาชีพนั้น
ถึงความจำเป็นที่บุคคลนั้นต้องไม่เป็นโรคตาบอดสีขั้นรุนแรงหรือไม่ตาบอดสีเลย
โรคตาบอดสีคาดว่าเกี่ยวข้องกับโครโมโซเพศชาย เป็นโรคทางพันธุกรรม
ที่เพศชายมีโอกาสเกิดได้บ่อยกว่าเพศหญิง (อาการผมร่วง ผมล้านก็เช่นเดียวกัน)
มาลงท้ายกันที่มองเห็นสีได้อย่างไรกันยาวๆ
เริ่มเลยคือ แสงสีต่างๆ สะท้อนเข้าสู่ตา เซลล์กรวยรับแสงนั้น จึงเห็นเป็นภาพที่ประกอบกับเป็นสีๆ
เพราะงั้นวัตถุใดสะท้อนแสงสีใดใส่เรา จึงเห็นวัตถุนั้นสีอย่างนั้นเอง
ถ้าไม่มีแสงเลย อย่าง ห้องมืดสนิท เราก็จะไม่เห็นอะไรเลยเลย เพราะไม่มีแสงใดสะท้อนเข้าตาเรา
มะเขือเทศแดงสดที่เราเห็น รับแสงทุกแสงที่ส่องมาที่มัน แต่สะท้อน/ไม่รับแสงสีแดง เราจีงเห็นสีแดง
ดูมันผิดสามัญสานึกดีไหม
วัตถุสีขาว เสื้อขาว สะท้อนมันทุกแสง
วัตถุสีดำ รับหมด ไม่มีการสะท้อนแสงเลย เราจึงเห็นเป็นสีดำ
ใครที่ชอบของสิ่งนั้นเพราะสีสวย แสดงว่า ชอบวัตถุที่สะท้อน/ไม่รับ สีนั้น น่ะสิ
เรื่องนี้เราชอบอะ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองได้ทบทวนเนื้อหา ต้น ม.ต้น เลย
ตอบลบขอบใจนะ
แต่อ่านไปอ่านมาก็ง่วงนอนอะ เหอะๆ คงไม่เกี่ยวกับเนื้อหามั้ง?
ตอบลบไม่ไหวแระ ง่วงมากๆ ไปนอนดีก่า เหอะๆ นอกเรื่องเรา
ตอบลบโทษทีนะ ที่รบกวน(ตี...) รึป่าว?
ตอบลบน่าสนใจดีนะ อ่านสนุกดี เข้าใจง่ายด้วย
ตอบลบปล. ชอบเรื่องนี้มาก คงรู้นะว่าทำไม
อิอิ
ตอบลบดูดี มีสไตล์
...
สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบชอบสีเขียวเหมือนกัน
อิอิ
blog สวยนะครับ
ตอบลบhzxc.blogspot.com
คิดได้ไงอะ สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ตอบลบสนุกดีอ่ะ รู้สึกเหมือนได้อ่านนิยาย
ตอบลบและภาพก็สวยดี
อืมก้อดีนะ
ตอบลบไครมันคิดวะเนี่ย
ตอบลบเนื่องจากเราไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับด้านจิตวิทยาด้านใช้สีอย่างมาก เลยอาจจะคอมเมนต์ได้ไม่ค่อยเข้า "เบ้า" ใครก็ต้องขอโทษมานะที่นี้ด้วย
ตอบลบเรื่องของสีนั้นเป็นเรื่องที่เอาตรรก(อ่านว่า ตัก-กะ)มาอธิบายประกอบยากพอดู เพราะมันเป็นเรื่องของจินต(อ่านว่า จิน-ตะ) ไม่ใช่เรื่องของตรรก
สำหรับผม ผมมองได้แค่ว่าสีเป็นเรื่องการดูดกลืนของคลื่นแสง ซึ่งเกิดจากแสงมาตรงกระทบวัตถุ(Object) แล้ววัตถุนั้นดูกลืนแสงปฐมภูมิใดไป แล้วเหลือแสงปฐมภูิมใดไว้ให้ปรากฎออกมา ภ้ามีแสงปฐมภูมิที่ปรากฎออกมามากกว่า1สีก็จะรวมกันเป็นสีใหม่เกิดขึ้น
ตาของมนุษย์เราหยาบเกินไปกว่าที่จะมองเห็นคลื่นแสงได้ทั้งหมด ซึ่งช่วงที่มนุษย์สามารถมองเป็นคลื่นแสงได้ก็มีช่วงความยาวคลื่นแค่ 300 นาโนเมตรเท่านั้น(400-700นาโนเมตรที่มนุษย์มองเห็น) นอกนั้นมนุษย์ไม่เห็นแล้ว เพราะฉะนั้นผมของบอกได้แค่ว่า What you see is what you don't get. อะไรที่คุณเห็นอาจเป็นอะไรที่คุณมิอาจเข้าใจ (เรื่องของแกมมาภาษาอังกฤษมันอาจจะผิดผมก็ต้องขออภัย)
นำเสนอน่าสนใจดี
ตอบลบอ่านแล้วอยากอ่านอยากรู้ต่อไปเรื่อยๆ
เนื้อหากระชับไม่มากเกินไปพอดิบพอดี
สรุปว่า ชอบอ่ะนะ ขอบคุณนะ
ขอบคุณมากๆครับ พอดีหาข้อมูลเขียนนิยาย ที่ตัวเอกเป็นคนที่ "ตาบอดสี" อยู่แต่ไม่รู้ว่า อาการตาบอดสีเป็นยังไง พอได้มาอ่านเข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย ขอบคุณอีกครั้งครับ
ตอบลบขอบคุณมากๆครับ พอดีหาข้อมูลเขียนนิยาย ที่ตัวเอกเป็นคนที่ "ตาบอดสี" อยู่แต่ไม่รู้ว่า อาการตาบอดสีเป็นยังไง พอได้มาอ่านเข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย ขอบคุณอีกครั้งครับ
ตอบลบ