วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

ปริศนาแห่ง สี



เรื่องของ สี จะมีอะไรให้สงสัยได้

เรารู้จัก สี กันดีอยู่แล้วทั้งสีขาว ดำ แดง น้ำเงิน ฟ้า มีสีมากมายที่เรารู้จัก 
นับเป็นสัญลักษณ์ที่เรียบง่าย โดดเด่น และจำแนกได้ง่ายสำหรับผู้คนทั่วไป 
แต่ผู้ตาบอดสี จะเห็นโลกที่แตกต่างไปจากเรา (ขอกล่าวเฉพาะผู้ตาบอดสีแล้วกัน)
เนื่องด้วย พวกเขามีเซลล์รับแสงบกพร่องหรือไม่สมดุล เมื่อเทียบกับคนทั่วไป
จึงเห็นสีสันของภาพต่างๆ ในอีกมุมมองหนึ่ง



เซลล์สีในตาคนเราทั่วไปจะมีเซลล์กรวย อยู่ 3 ชนิด
คือ ชนิดรับสีแดง ชนิดรับสีน้ำเงิน และชนิดรับสีเขียว




น่าสงสัยมาก เพราะ วิชาศิลปะสอนว่าแม่สี 3 สีคือ แดงน้ำเงินและเหลือง
และสีเขียวเกิดจาก แม่สีเหลืองผสมกับแม่สีน้ำเงิน





 ซึ่งแม่สีผสมภาพเหล่านี้ กลับไม่ตรงกันกับแม่สีในตาของเรา
เครื่องพิมพ์ใช้หลัก RGB หรือก็คือใช้หลักแม่สีเหมือนแม่สีตาของคน
แต่แน่นอน คนเราเห็นสีมากกว่า 3 สีที่ว่ามานั้น แต่สีที่เรามองเห็นนั้นเกิดจากแม่สีของตาคนรับสีมามากกว่า 1สี
จึงมองเห็นวัตถุมีสีอื่นๆนั้นเอง  -- 10ล้านสี คือผลสรุปจำนวนสีที่ค้นพบว่าคนเราสามารถมองเห็นได้




ด้วยธรรมชาติที่หลาาากหลาย และการสำรวจที่ก้าวหน้า เราจึงรู้ด้วยด้วยว่าสัตว์เห็นโลกด้วยสีอะไรบ้าง เช่น

หมึก สัตว์ทะเลที่เรากินมันอยู่บ่อยๆ ถ้าเรามีโอกาศมองเห็นโลกจากตาของมันแล้วล่ะก็ เราจะต้องตกตะลึง
เพราะ หมึกเห็นแต่สีขาวดำเท่านั้น  ลองคิดถึงสภาพของมันคง ล่องลอยในทะเลกว้างสีขาว
เมื่อมีผู้บุกรุกหรือรู้สึกถึงอันตราย มันจะฉีดหมึกสีดำสนิทใส่ *-* บริเวณนั้นจะเห็นเป็นแอ่งสีเทาๆ

แต่เว้นเรื่องหมึกกันก่อน สัตว์เลี้ยงประจำบ้านนอย่างแมวก็น่าสนใจ ด้วยเหล่าแมวที่จับหนูเปื้อนเลือดแดงสดมาอวดเจ้าของ 
ในสายตามันขาดการเห็นแม่สีหลัก 1 สีที่ไม่เหมือนคน คือสีแดง งั้นเจ้าแมวก็เห็นหนูตัวออกสีน้ำเงินๆ และเลือดหนูสีเขียวๆ



ด้วยความสามารถที่แยกสีและเห็นสีที่ไม่เท่ากัน จะเห็นโลกต่างจากกันไปคนละมุม
ถ้าอย่างงั้นแล้ว คนที่มีเซลล์สีมาก จะเห็นความแตกต่างของภาพได้ดี เหมือนคนชิมรสไวน์ที่แยกรสได้ละเอียดไหม
ถ้าใช่ ศิลปินจิตรกร ก็ต้องมีเซลล์สีผิดไปจากชาวบ้านมากๆเลยสิ บางทีสิ่งนี้อาจอธิบายได้




ส่วนสัตว์หลายชนิดอย่างลิง นก ต่างๆนั้นมีความสามารถเห็นสีได้สดใสเทียบเคียงกับมนุษย์
ดูเหมือนว่าประโยชน์เรื่องสี ช่วยให้เราพบความไม่สมดุลของเซลล์สีได้ เช่น ภาพทดสอบการตาบอดสี
แต่ดูเหมือนการตาบอดสี ก็อาจจำเป็นในลดโอกาศในอาชีพได้เช่นกัน งานด้านแฟชั่น ศิลปกรรม 
อุตสาหกรรม หรืองานที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจเช่น ผู้ควบคุมจราจรลานบิน/ถนน
ได้เพิ่มลงในการรับสมัครงาน หรือแม้แต่สถานศึกษาวิชาชีพนั้น

ถึงความจำเป็นที่บุคคลนั้นต้องไม่เป็นโรคตาบอดสีขั้นรุนแรงหรือไม่ตาบอดสีเลย
โรคตาบอดสีคาดว่าเกี่ยวข้องกับโครโมโซเพศชาย เป็นโรคทางพันธุกรรม

ที่เพศชายมีโอกาสเกิดได้บ่อยกว่าเพศหญิง (อาการผมร่วง ผมล้านก็เช่นเดียวกัน)





มาลงท้ายกันที่มองเห็นสีได้อย่างไรกันยาวๆ
เริ่มเลยคือ แสงสีต่างๆ สะท้อนเข้าสู่ตา เซลล์กรวยรับแสงนั้น จึงเห็นเป็นภาพที่ประกอบกับเป็นสีๆ
เพราะงั้นวัตถุใดสะท้อนแสงสีใดใส่เรา จึงเห็นวัตถุนั้นสีอย่างนั้นเอง
ถ้าไม่มีแสงเลย อย่าง ห้องมืดสนิท เราก็จะไม่เห็นอะไรเลยเลย เพราะไม่มีแสงใดสะท้อนเข้าตาเรา
มะเขือเทศแดงสดที่เราเห็น รับแสงทุกแสงที่ส่องมาที่มัน แต่สะท้อน/ไม่รับแสงสีแดง เราจีงเห็นสีแดง

ดูมันผิดสามัญสานึกดีไหม
วัตถุสีขาว เสื้อขาว สะท้อนมันทุกแสง
วัตถุสีดำ รับหมด ไม่มีการสะท้อนแสงเลย เราจึงเห็นเป็นสีดำ

ใครที่ชอบของสิ่งนั้นเพราะสีสวย แสดงว่า ชอบวัตถุที่สะท้อน/ไม่รับ สีนั้น น่ะสิ



16 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 01:37:00

    เรื่องนี้เราชอบอะ อ่านแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองได้ทบทวนเนื้อหา ต้น ม.ต้น เลย

    ขอบใจนะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 01:39:00

    แต่อ่านไปอ่านมาก็ง่วงนอนอะ เหอะๆ คงไม่เกี่ยวกับเนื้อหามั้ง?

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 01:41:00

    ไม่ไหวแระ ง่วงมากๆ ไปนอนดีก่า เหอะๆ นอกเรื่องเรา

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 01:44:00

    โทษทีนะ ที่รบกวน(ตี...) รึป่าว?

    ตอบลบ
  5. น่าสนใจดีนะ อ่านสนุกดี เข้าใจง่ายด้วย

    ปล. ชอบเรื่องนี้มาก คงรู้นะว่าทำไม

    ตอบลบ
  6. อิอิ

    ดูดี มีสไตล์

    ...

    ตอบลบ
  7. สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆๆ
    ชอบสีเขียวเหมือนกัน
    อิอิ

    ตอบลบ
  8. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 13:22:00

    blog สวยนะครับ

    hzxc.blogspot.com

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ2 ก.ย. 2553 14:15:00

    คิดได้ไงอะ สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ7 ก.ย. 2553 13:04:00

    สนุกดีอ่ะ รู้สึกเหมือนได้อ่านนิยาย

    และภาพก็สวยดี

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ8 ก.ย. 2553 19:13:00

    อืมก้อดีนะ

    ตอบลบ
  12. ไครมันคิดวะเนี่ย

    ตอบลบ
  13. เนื่องจากเราไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับด้านจิตวิทยาด้านใช้สีอย่างมาก เลยอาจจะคอมเมนต์ได้ไม่ค่อยเข้า "เบ้า" ใครก็ต้องขอโทษมานะที่นี้ด้วย
    เรื่องของสีนั้นเป็นเรื่องที่เอาตรรก(อ่านว่า ตัก-กะ)มาอธิบายประกอบยากพอดู เพราะมันเป็นเรื่องของจินต(อ่านว่า จิน-ตะ) ไม่ใช่เรื่องของตรรก
    สำหรับผม ผมมองได้แค่ว่าสีเป็นเรื่องการดูดกลืนของคลื่นแสง ซึ่งเกิดจากแสงมาตรงกระทบวัตถุ(Object) แล้ววัตถุนั้นดูกลืนแสงปฐมภูมิใดไป แล้วเหลือแสงปฐมภูิมใดไว้ให้ปรากฎออกมา ภ้ามีแสงปฐมภูมิที่ปรากฎออกมามากกว่า1สีก็จะรวมกันเป็นสีใหม่เกิดขึ้น
    ตาของมนุษย์เราหยาบเกินไปกว่าที่จะมองเห็นคลื่นแสงได้ทั้งหมด ซึ่งช่วงที่มนุษย์สามารถมองเป็นคลื่นแสงได้ก็มีช่วงความยาวคลื่นแค่ 300 นาโนเมตรเท่านั้น(400-700นาโนเมตรที่มนุษย์มองเห็น) นอกนั้นมนุษย์ไม่เห็นแล้ว เพราะฉะนั้นผมของบอกได้แค่ว่า What you see is what you don't get. อะไรที่คุณเห็นอาจเป็นอะไรที่คุณมิอาจเข้าใจ (เรื่องของแกมมาภาษาอังกฤษมันอาจจะผิดผมก็ต้องขออภัย)

    ตอบลบ
  14. นำเสนอน่าสนใจดี
    อ่านแล้วอยากอ่านอยากรู้ต่อไปเรื่อยๆ
    เนื้อหากระชับไม่มากเกินไปพอดิบพอดี
    สรุปว่า ชอบอ่ะนะ ขอบคุณนะ

    ตอบลบ
  15. ขอบคุณมากๆครับ พอดีหาข้อมูลเขียนนิยาย ที่ตัวเอกเป็นคนที่ "ตาบอดสี" อยู่แต่ไม่รู้ว่า อาการตาบอดสีเป็นยังไง พอได้มาอ่านเข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย ขอบคุณอีกครั้งครับ

    ตอบลบ
  16. ขอบคุณมากๆครับ พอดีหาข้อมูลเขียนนิยาย ที่ตัวเอกเป็นคนที่ "ตาบอดสี" อยู่แต่ไม่รู้ว่า อาการตาบอดสีเป็นยังไง พอได้มาอ่านเข้าใจอะไรขึ้นเยอะเลย ขอบคุณอีกครั้งครับ

    ตอบลบ