การนอน ความฝัน หนูและแมลงวัน

การนอนเป็นกิจกรรมที่เสียเวลาอยย่างหนึ่งที่สุดของมนุษย์ ถึง 1 ใน 3 ของชีวิต

นั้นหมายถึง เราจำเป็นต้องนอนถึงวันละ 8 ชั่วโมง

ถ้าเราไม่นอน อาจไม่รวดเร็วเท่ากับขาดออกซิเจน น้ำหรืออาหาร แต่เราจะตายในเวลาต่อมา

กลไกของมนุษย์สั่งให้นอนอัตโนมัติเมื่อถึงขีดจำกัดของร่างกาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเราจึงล้มพับเมื่ออดนอน

ข้อเสียการนอน คือ เสียเวลา และร่างกายปลดการป้องกันตัวหลายอย่างเพื่อทำหน้าที่อื่น

แต่การนอนมอบข้อดีให้มากมาย เป็นต้นว่าเราสามารถซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายได้มากกว่าปกติขณะที่เรานอน

แต่ปัจจัยสัญคัญนั้นอยู่ที่ มันจัดลำดับความทรงจำให้เรา

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เราประสบมาทั้งวันจะถูกจัดเรียง
และลำดับความสำคัญใหม่ทั้งหมด รวมทั้งต่อเติมบางส่วนเข้าไปด้วย

และส่วนที่ถูกต่อเติมเข้าไปนั้น มักจะปรากฎในความฝันของเรา

เช่นถ้าดูหนังสยองขวัญจบแล้วไปนอน เมื่อเราตื่นจากฝันอาจพบว่า
ฝันร้ายเหมือนหนังภาคใหม่ของหนังสยองขวัญที่เพิ่งดูไป

ผลลัพธ์จากการทำงานสมองขณะที่เราหลับคือ เราเก่งขึ้นเมื่อกลับมาทำใหม่
เช่น วันนี้เราเรียนเปียโน เรากลับไปนอน วันรุ่งขึ้นเมื่อเรามาเรียนอีกครั้ง เราจะเล่นได้ดียิ่งขึ้น

สัตว์โลกอื่นๆก็เช่นกัน ดังเช่นที่ ม.MIT นำแท่งไฟฟ้าจิ๋วเสียบเข้าไปในสมองส่วนตรรกะ
และต่อด้วยเครื่องกระจายสัญญาณไฟฟ้าในตัวหนู พวกเขาให้หนูไปวิ่งเขาวงกตที่ออกแบบ

เราเห็นความแตกต่างของคลื่นสมองขณะที่หนูที่วิ่งวนในเขาวงกต เกิดเป็นความถี่ขณะที่มันกำลังคิด

เมื่อหนูหลับ เราสามารถจำลองภาพในสมองที่หนูเห็น เราเห็นทางที่มันวิ่งไป บางฉากเร็ว บางฉากช้ามาก

อีกการทดลองหนึ่ง จับแมลงวันมาใส่เครื่องเขย่าแบบพิเศษ ลักษณะเหมือนขวดยักษ์ที่หมุนตลอดเวลา
เพื่อไม่ให้พวกมันนอนตอนกลางคืนได้ รุ่งเช้าหยุดเครื่อง สิ่งที่พบเครื่องแมลงวันหลายตัวที่เหมือนตาย
แต่ที่จริงพวกมันกำลังหลับชดเชย ผ่านไไปหลายชั่วโมง พวกมันจึงตื่นแล้วบินวนขวดยักษ์ต่อไหว

โดยอาศัยพื้นฐานที่ว่าแมลงวันเป็นสัตว์หลับกลางคืนและสดชื่นในเวลากลางวัน
แต่ก็มีบ้างที่แมลงวันตัวผู้จะงีบหลับยามกลางวันเช่นกัน